วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2553

เมื่อไหร่ฉันควรจะแต่งงานดี?


คุณค่าของการแต่งงาน
1.การแต่งงานเป็นวิธีที่พระเจ้าประทานความสุขให้มนุษย์ หลังจากความผิดพลาดบาปของมนุษย์ในสวนเอเดน (ปฐก.1:28)
2พระคัมภีร์กล่าวว่า ใครพบภรรยาดีก็พบสิ่งที่ดีและเป็นที่ชอบพระทัยของพระเจ้า (สภษ.18:22)
3.การแต่งงาน อย่าเป็นไปอย่างเร่งรีบ พระเจ้าไม่รั้งรอในการที่จะตั้งครอบครัวคริสเตียนและสืบสกุลลูกหลาน ที่จะเป็นที่ให้ความสุขได้
4.สถาบันการแต่งงานได้จัดตั้งขึ้น ในสมัยตั้งแต่บรรพบุรุษมานานเก่าก่อนและเป็นสถาบันที่เก่าแก่กว่าคริสตจักรและการปกครอง
5.เราอยู่ในสถานการณ์ที่ต่ำทรามลงกว่ามาตรฐาน ดังนั้น ครอบครัวการแต่งงานจึงแตกหักได้ง่าย มาตรฐานของพระเจ้าที่ทรงประทานให้เราจึงไม่ควรเปลี่ยนแปลง

เหตุผลที่ต้องแต่งงาน
การแต่งงานเกี่ยวข้องกับแผนงานของพระเจ้า
เป็นน้ำพระทัยพระเจ้าที่สร้างหญิงม่ายเพื่อช่วยชาย(ไม่แน่ใจว่าคือไร)
การมีครอบครัวที่เป็นคริสเตียน เป็นการ
เชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้า (ปฐก.1:28) พระเจ้าตรัสว่า “จงมีลูกดกเต็มแผ่นดิน”
เพื่อมีคู่อุปถัมภ์ (ปฐก.2:18) พระเจ้าตรัสว่า “ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่ชายจะอยู่คนเดียว”
เพื่อเป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือ สองคนดีกว่าคนเดียว ถ้าอีกคนล้มลง อีกคนหนึ่งจะพยุงกัน ให้ลุกขึ้น (ปญจ.4:9-10) พระเจ้าทรงให้คนทั้งสองเป็นกายเดียวกัน (ปฐก.2:24)
ทำให้พึงพอใจในด้านชีววิทยา (เพศ, อารมณ์ของมนุษย์ควรดูแลเอาใจใส่ให้อบอุ่น) มนุษย์เกิดมาต้องการสิ่งที่ดี การแต่งงานที่บริสุทธิ์และถูกต้องตามกฎหมายจะศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยพิธีแต่งงาน
เพื่อพงศ์พันธุ์ของมนุษย์ (ปฐก.1:28, 9:1)
คริสเตียนควรแต่งกับคริสเตียน
2คร.6:14 อย่าเข้าเทียมแอกกับผู้ที่ไม่เชื่อ
คนชอบธรรมกับคนอธรรมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว เขาจะรับใชัพระเจ้าได้อย่างไร ในเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งรับใช้ซาตานและความบาป

แต่งงานเมื่อไหร่
เมื่อพระเจ้าทรงนำ หลังจากที่อธิษฐานอย่างมากและแสวงหาน้ำพระทัยของพระองค์แล้ว
เมื่อรู้จักคนรักเพียงพอ รู้ว่าเขา/เธอชอบหรือไม่ ชอบอะไร อย่ารีบเร่งเกินไปจะอันตราย
รอคอยจนกว่าจะรักเขาจริง การแต่งงานเพื่อชีวิตและการอยู่ร่วมกันสร้างสรรค์ความรัก (1คร.13)
จะทำให้ครอบครัวมีสุข
ระหว่างรอคอย ให้ระวังการผิดทางจริยธรรมเพราะจะทำให้เกิดความขมขื่นและทำลายชีวิตการแต่งงานให้ล้มเหลวและไม่มีความสุขได้
จ. รอคอยจนกว่าอายุจะเหมาะสมที่จะแต่งงาน การแต่งงานเป็นเรื่องของคนที่เป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่เด็กเพราะต้องสนใจรับผิดชอบ และสามารถตอบสนองความต้องการของกันและกันได้
ช. การแต่งงานต้องการร่างกายที่แข็งแรง คู่แต่งงานต้องการการเอาใจและความรัก
ซ. รอเวลาที่จะได้รับความเห็นชอบจากผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง
ฌ. รอคอยการเงินจนกว่าจะมั่นคง แต่ไม่ใช่ว่าจนกว่าจะร่ำรวย

การสมรสที่มีความสุข
1. พื้นฐานการแต่งงานที่ประสบความสำเร็จที่แท้จริงเกิดจากการยินยอมและการตกลงของทั้งสองฝ่าย บิล บรันเนอร์ นักสังคมศาสตร์ที่มีชื่อเสียงกล่าวว่า “ความสัตย์ซื่อต่อกันทั้งในทางความประพฤติและทางใจ เป็นคุณธรรมที่ประกันความยั่งยืนแห่งชีวิตการสมรส”
2. ควรมีเป้าหมายเป็นครอบครัวคริสเตียนที่แท้จริง คือสามีเป็นศีรษะของครอบครัวและภรรยา เป็นผู้ช่วยในครอบครัว
3. ควรมีพื้นฐานในชีวิตทุกขณะคือ การคาดหมาย อย่ารอเวลา รอคอยให้สั่งเพราะการแต่งงานไม่ใช่การทดลองเวลาสั้นๆแต่ระยะยาว
4. ความสุขจากการแต่งงานตามพระวจนะของพระเจ้าคือ “ลูก” ที่พระองค์ประทานให้ (สดด.127:3-5)
5. แท้จริงความรักเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการสมรส (อฟ.5:25) สามีควรรักภรรยา (ตต.2:4)นู๋ว่าข้อพระคำเหมือนจะผิด และภรรยาควรรักสามี
6. การหมั้นนั้นเป็นสิ่งที่มีเกียรติยศ และน่ายินดีและการแต่งงานเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น หนุ่มจึงควรเข้าสู่พิธีแต่งงาน ให้พิจารณาเห็นถึงความสำคัญ
7. อย่ารบเร้าให้รีบเร่งการแต่งงาน อย่าหนีตามกันไปและอย่าอยู่ร่วมกันเฉยๆ
8. ทั้งคู่ควรยินยอมให้การแต่งงานเลื่อนไปจนกว่าจะมีอายุเป็นผู้ใหญ่อย่างแท้จริง
9. ควรแสดงท่าทีอยู่เสมอว่า ในการกระทำ การแสดงออก แต่ไม่ใช่เกี่ยวกับด้านร่างกายหรือด้านเพศ

ไม่มีความคิดเห็น: