วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2553

เสน่ห์ของผู้หญิงอยู่ที่ไหน


“ในชายพันคนจะพบชายจริงสักคนหนึ่ง แต่จะหาหญิงแท้สักหนึ่งคนในจำนวนพันคน ก็หามีไม่” (ปญจ.7:28) หนังสือเล่มหนึ่งได้เขียนเกี่ยวกับหนุ่มสาวเมื่อ 1,700ปี ชาวอียิปต์ก็เคยบันทึกเอาไว้ใน แผ่นปาปิรัสว่า หนุ่มสาวในชุมชนไม่สนใจใยดีต่อกิจกรรมทางสังคม หนุ่มๆเอาแต่เที่ยวขี่ม้าไปตามทุ่งหญ้า แทนที่จะเฝ้าแกะ เด็กสาวๆจะเอาเฮนนา มาทาริมฝีปากอย่างไม่อาย เมื่อเราเปรียบเทียบกับปัจจุบันก็ต่างกันมาก ปัจจุบันเด็กสาวๆเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสังคมการเมือง หญิงทัดเทียมชายและเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ รวมถึงเสรีภาพด้านเพศอย่างไม่อาย หนุ่มสาวเดินควงคู่กัน ซึ่งไม่เหมือนในอดีต และนำไปสู่การทดลอง วัฒนธรรมทางตะวันตก เข้ามาทำให้ขนบธรรมเนียมที่อ่อนหวานน่ารักแทบหมดสิ้น และพระเจ้าไม่ต้องการให้เป็นไปตามนั้น จึงมีบันทึกไว้ในพระวจนะพระองค์ไม่ให้ประพฤติตามอย่างในโลกนี้ (โรม12:12)
พระคัมภีร์ได้ชี้ให้คริสเตียนทุกคนบังเกิดใหม่ ไม่ควรดำเนินชีวิตเหมือนคนในยุคนี้ แต่ดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยพระเจ้า ซึ่งเราควรจะยึดกฏเกณฑ์ของพระเจ้ามากกกว่าตามโลก วัฒนธรรมสังคม หากหนุ่มสาวปฏิบัติตามก็จะเห็นความน่ารัก น่ายกย่องชมเชย ไม่เพียงแต่ต่อสายพระเนตรพระเจ้าเท่านั้น แต่ยังต่อหน้ามนุษย์ด้วย เราจะมองดูด้วยกันถึงคุณสมบัติของหญิง น่าจะมีคือ
กริยาวาจาสุภาพเรียบร้อยพิเศษ (สภษ.10:32, 12:14)
วาจาไพเราะทำให้ผู้หญิงน่าคบหา
ไม่ควรเลียนแบบ วาจา กริยา ท่าทางตะวันตกมากเกินไป ทั้งๆที่ฝรั่งอยากดูและชื่นชมประเพณีไทย
ไม่ควรพูดมากกับชายแปลกหน้า ไม่จำเป็นอย่าพูดด้วย อย่าแซวโต้ตอบ
ยินดีพูดกับญาติ, เพื่อสนิท สนมทำความรู้จักกัน ดู สภษ.21:19
เป็นผู้รักงานแม่บ้านแม่เรือน (สภษ.31:10-31)
“สตรีเป็นอันมากทำอย่างดีเลิศ แต่เธอเลิศยิ่งกว่าเขาทั้งหมด” (สภษ.31:29)
*ควรสนใจงานคหกรรม, ปรุงอาหาร, เย็บปักถักร้อย, การแต่งประดิษฐ์ต่างๆบ้าง เมื่อแต่งงานจะดูเป็นเสน่ห์ เป็นจุดเด่นของหญิง
*จัดบ้านเรือนให้สะอาด
*สนใจเลี้ยงเด็ก
*ขยันขันแข็ง (สภษ.22:29)
*รอบคอบ (สภษ.31:16,27) สัตย์ซื่อ
*รักการอ่านเขียนเรียนรู้เพิ่มเติม (สภษ.21:22) เพื่อจะได้เข้าใจชีวิตและมีทัศนคติที่กว้างขึ้น
ค.แต่งกายสะอาดเรียบร้อยตามสมัยนิยม (1ทธ.2:9)
*ไม่ควรใส่กระโปรงฟิต, สั้น, หรือบางตามแฟชั่น
*แต่งกายให้ดูสะอาดเรียบร้อยแต่พองาม ไม่ล้าสมัยเกินไป
ง.ควรมีท่าทีถูกต้องต่อเพื่อนต่างเพศ
*ไม่อยู่สองต่อสองลับตาคน ตัวอย่าง อัมโมน, ทามาร์
*ไม่เที่ยวตามลำพังสองต่อสอง ควรมีเพื่อนหญิง / ชายคนอื่นไปด้วย เพื่อจะช่วยรักษาชื่อเสียงและเรียนรู้จักคน
จ.มีไมตรีจิตต่อคนทั่วไป (สภษ.11:22)
*ไม่ควรให้ความสนิทสนมกับคนแปลกหน้า
*ไม่ควรไปกับเพื่อนชายที่เราไม่ทราบนิสัยจริงของเขา
*วางตัวต่อเพศตรงข้ามพอเหมาะพอควร
*ไม่ชอบไม่รักอย่าเล่น หรือให้ความหวัง, หลอกเอาโน่นเอานี่
*อย่าเป็นฝ่ายเชื้อเชิญชายทำโน่นทำนี่
ฉ.ต่อสังคม (1ทธ.2:10)
*อย่าคบคนง่าย
*หากไม่รู้จักนิสัยดี อย่าคบหาอย่าสนิทสนมด้วย
*อย่าไว้ใจคนง่าย
*ไม่ควรกลับบ้านดึกๆเว้นไว้แต่จำเป็นจริงๆ และต้องแจ้งผู้ใหญ่ให้ทราบก่อน
*อย่าตัดสินใจเชื่อคนง่ายๆ
*อย่าเชื่อเพื่อน, บุคคลอื่น (เขาอาจมีเจตนาไม่ดีต่อเรา) มากกว่าผู้ปกครอง
ตัวอย่าง นางรูธ ปรึกษาแม่ยาย และเอสเธอร์ปรึกษาโปรเดคัย
ซ.ควรยำเกรงพระจ้า (สภษ.2:5)
*รักษาชื่อเสียงดี (สภษ22:1)
*รักการอธิษฐาน, อ่านพระคัมภีร์ (ชายคริสเตียนทุกคนต้องการ แม้เธอจะไม่ค่อยเก่ง)
*เอาใจใส่ดูแลงานคริสตจักร (1คร.7:34)
*ซื่อสัตย์ “เหล่านี้จะทำให้เห็นคุณค่าของความเป็นสตรี และมีเกียรติแก่การยกย่องนับถือมาก”
ญ.ข้อคิด ดูหญิงอิสราเอล
*2พกษ.5:2-4 / เอสเธอร์2:20 / รูธ3:5, 2:11, 1:16-17
*หญิงที่ปราศจากความสงบเสงี่ยม อาจเป็นภรรยาที่ปราศจากความน่ารักก็ได้
*ผู้หญิงที่คบคนง่าย ชอบเอาใจผู้ชายมากเกินไป อาจไม่ใช่ผู้หญิงที่เป็นภรรยาที่ดีเสมอไป



จากหนังสือ - Human Relations./
Courtship and love marriage./
Parents and Children

ไม่มีความคิดเห็น: