เมื่อประมาณสองวันก่อน ได้มีโอกาสคุยกับน้องคนนึงซึ่งเป็นน้องที่รู้จัก พอสมควรและชื่นชมเค้ามาตลอด น้องสาวคนนี้เป็นเด็กดีและเคยเป็นหนึ่งในคริสเตียนแถวหน้า พอดีเค้าโทรมาปรึกษาเรื่องงาน เราเลยมีโอกาสได้คุยกัน....เรื่องราวใน รายละเอียดขออุบไว้แต่อยากเอาแนวคิดในเรื่องนี้มาแบ่งปันพี่น้อง เพราะมั่นใจมากๆว่าคงเตือนสติหลายๆคนได้...เป็นเรื่องไม่บังเอิญแน่นอนที่เค้าโทรมาหาเพราะเชื่อว่า พระเจ้าเจาะจงให้เราได้ช่วยเค้าและพระเจ้าปรารถนาจริงๆที่จะให้เค้าได้รับการช่วยเหลือจากเรา
น้องเล่าให้ฟังว่าเค้าต้องทำงานหาเงินเพื่อแก้ปัญหาต่างๆของตัวเองในชีวิตและเค้าทำได้สำเร็จมาโดยตลอด อีกทั้งยังเป็นกำลังหลักในการหารายได้ให้แก่ครอบครัว งานที่เค้าทำไม่ได้สวยหรูในสายตาพี่น้องคริสเตียน พูดว่าดูไม่ดีเลยก็ว่าได้แต่เค้าต้องทำเพื่อให้มีรายได้ที่คล่องตัวแก่ครอบครัว ในสายตาของครอบครัว...ทุกคนภูมิใจและ สนุบสนุนเค้าในงานที่เค้าทำ เลยถามว่าเค้าไปว่าแล้วตอนนี้เค้าอยู่ที่ไหน เค้าตอบว่าหนูอยู่กับแฟนน่ะพี่ แล้วเล่าให้ฟังต่อว่าเค้ากับแฟนรู้จักกันได้ยังไง
หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมด...ถ้าเราคิดตามบนพื้นฐานมนุษย์ที่ไม่คิดอะไรมากก็คงไม่มีอะไร แต่หลังจากที่เค้าพูดจบ...พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำงานในใจให้ต่อเวลาคุยกับเค้าอีกนิด พระวิญญาณต้องการเตือนเค้าผ่านเราว่าไม่เพียงแต่งานที่เค้าทำที่พระเจ้าไม่พอพระทัยแต่การตอบสนองของเค้าที่มีต่อพระเจ้าจะทำให้เค้าตายไปในความอุ่น
คริสเตียนหลายคนถูกสอนเรื่องความอุ่นที่มีในพระเจ้าแต่หลายครั้งเราไม่ตระหนัก...กลับตอบสนอง พระเมตตาด้วยความเฉยชาต่อพระเจ้าทีละนิด ตอบสนองพระสุรเสียงและพระวิญญาณบริสุทธิ์น้อยลงๆทีละหน่อย จนวันนึงพระเจ้าไม่อยู่ในใจ เราแล้วแต่เรากลับไม่รู้ตัวและคิดว่ายังเดินกับพระเจ้าอยู่ เวลาใครถามก็ตอบว่าหนูยังรักพระเจ้าอยู่พี่แต่จริงๆหนูไม่ได้รักพระเจ้าแล้ว หนูแค่รู้ว่าพระเจ้ามีจริงเพราะถ้าคนรักกันจริง เค้าจะไม่คิดถึงกันหรอกเหรอ ลองนึกถึงเวลาที่ตัวเองตกหลุมรักใครซักคนสิ ใจมันแทบจะขาด อยากจะโทรหาแทบคลั่ง การที่เฉยกับใครซักคนไปเรื่อยๆ วันนึงเราก็จะลืมเค้า แล้วพอถึงวันนั้น...อาจจะลืมไปเลยก็ได้ว่าเค้าคนนั้นมีอยู่จริง
น้องเค้าไม่ได้เล่าให้ฟังในทุกรายละเอียดแต่พระเจ้าสัมผัสใจมากๆว่าสิ่งที่เค้าเล่า พระเจ้าไม่พอพระทัยแม้จะฟังแล้วจะเข้าใจความคิดเค้าและเห็นอกเห็นใจกับความคิดนั้น แต่ก็เข้าใจพระเจ้าจริงๆว่าปล่อยเค้าไปไม่ได้โดยไม่เตือนเพราะเค้าจะตาย
ชีวิตคริสเตียนที่ตัดสินใจเฉยชาต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ทีละนิดแล้วไม่กลับใจ คือการเดินกับพระเจ้าอย่างอุ่นๆ สภาพที่ว่าไม่ต่างอะไรกับอึ่งอ่างต้มเปรตเลย ถูกจับโยนลงไปว่ายน้ำเล่นในหม้อตั้งแต่น้ำยังเย็นๆ ว่ายไปว่ายมาสนุกดี ไม่รู้สึกอะไรกับน้ำที่ค่อยๆร้อนขึ้นเพราะผิวหนังปรับสภาพกับความอุ่น จนน้ำเดือดตัวเองตายก็ยังไม่รู้ตัวเพราะความอุ่นนั่นแหละที่ฆ่ามันทีละนิด ไม่ทรมานเพราะไม่รู้ตัวเลยไม่ได้ป้องกันตัว เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะตาย คริสเตียนที่เดินอุ่นๆไม่ต่างอะไรกับอึ่งอ่างต้มเปรตเลย เฉยต่อ พระวิญญาณและการตีสอนทีละนิดและคิดว่าไม่เป็นไร...เดินไปๆวันนึงหายออกจากทางของพระเจ้าและไม่มีพระองค์อยู่ในใจแล้วก็ไม่รู้ตัว
"ถ้าไม่อยากเป็นเหมือนอึ่งอ่างต้มเปรต กลับใจและตอบสนองพระวิญญาณบริสุทธิ์ทุกครั้งที่ได้ยินการเตือนเถอะ"
โดย ครูแพรว
เราเป็นเพื่อนยามเหงา เราจะทำให้คุณรู้จักตัวเอง เราจะสร้างความรู้สึกดีๆให้แก่ชีวิตคุณ บทความบล็อกนี้จะเขียนเพื่อเป็นเพื่อนแก้เหงา สอนการเลือกคู่ครองและแนะนำบทเรียนดีดี
วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554
ข้อคิดจากที่พักสุดท้าย
"ฉันขอพลกำลัง
เพื่อฉันจะได้ความสำเร็จ
ฉันถูกทำให้อ่อนแรง
เพื่อฉันจะถ่อมใจรู้จักเชื่อฟัง
ฉันขอสุขภาพสมบูรณ์
เพื่อฉันจะทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า
ฉันถูกทำให้อ่อนแอ
เพื่อฉันจะทำในสิ่งที่ดียิ่งกว่า
ฉันขอความมั่งคั่งเพื่อฉันจะมีความสุข
ฉันได้รับความยากจนเพื่อฉันจะมีปัญญา
ฉันขออำนาจเพื่อฉันจะได้รับการยกย่องจากมนุษย์
ฉันได้รับความอ่อนแอเพื่อฉันจะรู้สึกว่าต้องการพระเจ้า
ฉันขอทุกสิ่งอย่างเพื่อฉันจะสนุกกับชีวิต
ฉันได้ชีวิตเพื่อฉันจะสนุกกับทุกสิ่งอย่าง
ฉันไม่ได้ในสิ่งที่ฉันขอแต่ได้ทุกสิ่งที่ฉันมุ่งมาดปรารถนา
แม้ปากจะขอไปผิดๆแต่คำอธิษฐานที่ไม่ได้พูดออกมาได้รับคำตอบ
ฉันได้พระพรมั่งคั่งที่สุดท่ามกลางมนุษย์ทั้งปวง"
แอบจดมาจากหนังสือเล่มหนึ่ง จำชื่อหนังสือไม่ได้แต่รู้ว่าข้อความนี้เขียนไว้หน้าหลุมศพของคนที่รักพระเจ้าคนหนึ่งเพื่อจะเตือนสติคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ขอบคุณพระเจ้าค่ะ ที่พระองค์สอนลูกในทุกๆวัน ลูกรักพระองค์นะคะ ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ได้ตามใจลูกแต่พระองค์ดูแลลูกดีกว่าที่ลูกคิด
โดย โปรดปราน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)